ทุกวันนี้รุ่น สุดฮิตอย่าง E250 ที่ออกมาเป็นปีแล้วก็ยังมีขายอยู่ เนื่องจากฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างง่ายมีให้ครบในราคาถูกแสนถูก และก็ขายดีในระดับหนึ่งจนต้องทำสีใหม่ออกมาเรื่อยๆ จากนั้นซัมซุงพยายามปั้นรุ่นใหม่ในระดับเดียวกันออกมาอย่าง J700 จนถึงตัวล่าสุดอย่าง M620 ตัวนี้ ส่วนจะประสบความสำเร็จไหม ไม่มีใครบอกได้ คงต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกัน
เราจะเห็นว่าโทรศัพท์ซัม ซุงในช่วงก่อนเน้นที่ความบางและลักษณะตัวเครื่องที่บานหรือป้านออก มาในยุคนี้รูปทรงแห่งการดีไซน์มีการเปลี่ยนแปลงออกไปพอสมควร อย่าง M620 จะมีความยาวตัวเครื่องเพิ่มขึ้น พร้อมกับหน้าตาที่เพรียวลง และไม่ได้บางเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
เมื่อ ยืดฝาสไลด์ออกจะเห็นเลยว่ามันค่อนข้างยาวมาก บางทีผมกลับไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะตอนดันนิ้วโป้งออกเพื่อเลื่อนฝาจะรู้สึกไม่ถนัด ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วในรุ่นใหญ่อย่าง U900 Soul เป็นต้น กระนั้นเอง บางท่านอาจจะชอบทรงประมาณนี้ก็ได้
ส่วนประกอบรอบเครื่องมีอยู่ พร้อมหน้าพร้อมตาตามสไตล์ เรื่องที่ต้องชมเชยคือ การนำสล็อตใส่การ์ดไมโครเอสดีไว้นอกแบตเตอรี่เสมอ ทำให้ผู้ใช้ถอดเปลี่ยนการ์ดได้ง่ายมาก ทั้งปุ่มปรับเสียงที่จำเป็นขณะสนทนา ไหนจะชัตเตอร์ที่ใช้กดเข้าโหมดถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว หมดนี้คือจุดเด่นของซัมซุงอย่างแท้จริง
สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ ปุ่มสำหรับลัดเข้าเครื่องเล่นเพลงและบลูทูธที่แอบอยู่ใต้ฝาสไลด์แถวปุ่มตัว เลข สาเหตุที่ M620 มีคู่หูคู่นี้เพิ่มมาน่าจะเป็นเพราะตัวเครื่องที่ยาวขึ้นนั่นแหละ รับรองว่าคุณได้ใช้ประโยชน์จากมันแน่ เหตุนี้เราจะไม่ต้องไปสร้างไอคอนลัดไว้ในเมนูส่วนตัวอีก นับเป็นเรื่องง่ายที่หลายยี่ห้อมักละเลยเสมอ
ชำแหละเครื่องใน
อย่าง ที่บอกไปแล้วว่ารุ่นจำพวก E250 J700 และ M620 มีความใกล้เคียงกันในเรื่องฟังก์ชั่น คาดว่าราคาเปิดตัวออกมาก็คงประมาณเดียวกัน เพียงแต่ M620 มีความสดมากกว่า ก็อาจจะเรียกความสนใจจากลูกค้าได้ดีกว่าเท่านั้นเอง กระนั้น เรามาดูในรายละเอียดกันเต็มๆ ดีกว่า
น่าแปลกที่รุ่นนี้ดันไม่มี เอดจ์ ทั้งที่รุ่นก่อนหน้ารองรับการเชื่อมต่อประเภทนี้ทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นคลาสต่ำหน่อยก็เหอะ ยังไงความเร็วต้องสูงกว่าจีพีอาร์เอสอยู่ดี ส่วนบลูทูธนั้นไม่มีปัญหา เพราะรองรับมาตั้งแต่ปีมะโว้ แถมโพรไฟล์เอทูดีพีและเอวีอาร์ซีพีสำหรับการเล่นเพลงให้ด้วย
กล้อง ถูกปรับกลับไปเหลือแค่ 3 แสนพิกเซล ลูกเล่นเด่นตามสไตล์ซัมซุงก็คือ การถ่ายแบบโมเสก (เหมือนกระเบื้องโมเสก) การแสดงเส้นแบ่ง 9 ช่อง เพื่อใช้ในการเล็งถ่ายภาพ ขณะที่กล้องวิดีโอทำความละเอียดได้เพียง 176 x 144 พิกเซล ในรูปแบบของไฟล์ 3 จีพี หรือ เอ็มพี 4 แล้วแต่เราจะเลือกนั่นเอง
รูปแบบของยูสเซอร์ อินเทอร์เฟสมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย อย่างทรานซิชั่นที่โผล่มาแจมเล็กๆ น้อยๆ ระบบสมาร์ท เสิร์ชที่ผมว่าจำเป็นต่อการโทรออกเป็นอย่างมาก ระบบนี้จะทำงานเมื่อเรากดตัวเลข 3 หลักบนหน้าจอสแตนด์บาย มันจะทำการค้นหาเบอร์ในประวัติการโทรหรือสมุดโทรศัพท์ให้ทันที นอกจากนี้ ฟอนต์ก็ถูกปรับปรุงใหม่ด้วย ผมว่าฟอนต์ใหม่ดูหยาบไปหน่อย ของเก่ากลับสวยและดูง่ายกว่าแฮะ
ในส่วนของความบันเทิง M620 มาพร้อมกับวิทยุเอฟเอ็มที่ไม่มีฟังก์ชั่นอะไรแปลกแหวกแนว โปรแกรมเล่นเพลงก็ปรับอีควอไลเซอร์ไม่ได้ ส่วนเกมบางเกมนั้นเป็นแบบทดลองเล่นเท่านั้น หากต้องการโหลดตัวเต็มมาก็ต้องเสียเงิน ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนาเนอะ
กูรูฟันธง
การ เปลี่ยนแปลงของรุ่นนี้ยังถือว่าน้อยเกินไป แน่นอนว่าถ้าออกมาราคาแพงกว่า J700 ที่ตอนนี้อยู่ราว 3,600 บาท รับรองว่าเตรียมเลหลังขายลดราคาได้เลย แต่ถ้าจะเอาไปวัดกับรุ่นเก่าอย่าง E250 ก็พอไหว เพราะคุณสมบัติสูสีกัน ขาดแต่เอดจ์ที่หายไปและได้สมาร์ท เสิร์ชเข้ามาแทน ลองชั่งใจดูแล้วกันครับว่าคุณต้องการลูกเล่นอันไหนมากกว่ากัน
ข้อดี
- จอแสดงผลสีชนิดทีเอฟที
- วิทยุเอฟเอ็ม
- ขยายหน่วยความจำได้
- บลูทูธเพื่อการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- มีปุ่มพิเศษเพื่อลัดเข้าบลูทูธและเครื่องเล่นเพลง
- ระบบสมาร์ท เสิร์ช และทรานซิชั่นเล็กๆ ในเมนู
- ใช้ไฟล์วิดีโอเป็นวอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหวได้
ข้อเสีย
- เอดจ์ถูกตัดออกไป
- กล้องมีความละเอียดต่ำเกิน
- การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรุ่น E250 ถือว่ามีน้อยมาก
- เกมบางเกมต้องเสียเงินเพื่อซื้อไลเซนส์อีก
ข้อมูลจาก : whatphone.net
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น