สัดส่วนภายนอก
ในที่สุดก็ได้ เวลาวางขายเสียที หลังจากปล่อยให้มิตรรักแฟนเพลงรอกันมาซักพักใหญ่ๆ ถ้าเกิดไม่รักกันจริง คงหนีหน้าไปหารุ่นอื่นแล้วใช่ไหมล่ะ นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน คนมีสตางค์ทั้งหลายคงต้องพก N95 ไว้สร้างความโก้เก๋ให้กับตัวเอง แต่ตอนนี้ไอโฟนแรงขึ้นมาแบบหยุดไม่อยู่ อยากรู้เหมือนกันว่าโนเกียจะทวงตำแหน่งเจ้าแห่งมือถือมัลติมีเดียกลับมาใน อ้อมกอดของเอ็นซีรี่ยส์ได้หรือไม่
ขนาด ตัวยังน้องๆ ยักษ์เหมือนเดิม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นที่การแสดงผลเพิ่มตามมาด้วย จอ 2.8 นิ้วคงหาไม่ได้ง่ายในโทรศัพท์ธรรมดาแน่ นอกเสียจากจะเป็นพีดีเอโฟนที่ไม่มีปุ่มตัวเลข ส่วนเรื่องการออกแบบนั้น โนเกียยังเอาแรงบันดาลใจจาก N81 มาใช้กับรุ่นนี้ บวกกับการสไลด์สองทางของ N95 เมื่อจับมายำรวมมิตรกันเข้า เราจึงได้เห็น N96 นอนแอ้งแม้งอยู่ในมือผมนี่ไง ขนาดตัวล้นทะลักมือกันไปเลย
จะเงา อะไรกันนักกันหนา N96 นี่เป็นผิวดำวาวทั้งเครื่องเลย ทั้งจอ ปุ่มกด และฝาหลัง (ดีนะแบตเตอรี่ไม่เงา) ด้วยเหตุนี้เองคุณจึงจะได้ของแถมติดเครื่องมาตลอดเวลา มันคือคราบมันและขนแมวนั่นเอง แต่วางใจได้ รุ่นนี้ไม่มีปุ่มโครเมี่ยมแบบ N95 รับรองว่าอาการลอกจะไม่เกิดขึ้นแน่
ผมว่าแผงปุ่มกดด้านหน้ามัน เลอะเทอะไปหน่อย นอกจากปุ่มสี่ทิศที่ใช้งานเป็นนาวีวีลตรงกลางแล้ว ยังมีปุ่มเล่นเพลงล้อมรอบอยู่อีกวง ซึ่งอันที่จริง N96 ก็มีปุ่มควบคุมเครื่องเล่นที่สไลด์ออกมาจากหัวอยู่แล้ว ไหนจะปุ่มมาตรฐานของโทรศัพท์อีก ทีนี้เลยตีกันมั่วไปหมด อย่างไรก็ดี เมื่อพลิกมาด้านหลัง เราจะพบกับขาตั้งที่พับเก็บได้ ประโยชน์คือใช้ยันเครื่องให้เอียงขึ้น เหมาะแก่การตั้งเอาไว้ดูหนังนั่นล่ะ นอกนั้น สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมก็มีพวกลำโพงสเตอริโอ ปุ่มโฮลด์ (hold) และรูเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ชำแหละเครื่องใน
พูด ถึงการตั้งเครื่องเอียงๆ จริงแล้ว N96 เขาก็มีจุดเด่นเรื่องการดูทีวี เพียงแต่ว่าจะรับการกระจายสัญญาณผ่านระบบดิจิตอล หรือ ดีวีบี-เอช (DVB-H) แล้วคิดว่าประเทศไทยสุดศิวิไลซ์จะรองรับหรือครับ ไม่เลย ฟังก์ชั่นนี้เหมือนกับเป็นของเปล่าประโยชน์ที่พวกเราได้แต่นั่งมองตาปริบๆ แค่นั้น
ทีนี้ก็วนกลับมาเรื่องเดิมๆ ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน ประมาณว่าไม่ถ่ายรูปก็ฟังเพลงแค่นั้น อย่าง N96 มีกล้อง 5 ล้านพิกเซล ออโต้ โฟกัส ด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและภาครับจีพีเอสในตัว ทำให้บันทึกทิศทางและพิกัดไว้ในอีเอ็กซ์ไอเอฟ (EXIF) ของภาพได้ บวกกับลูกเล่นตามสไตล์ ความคมชัดก็พอกับรุ่นเดิมๆ ถ่ายคนเป็นคน ไม่ใช่ถ่ายคนแล้วเป็นเทวดาหรือนางฟ้าแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน กล้องวิดีโอยังใช้ความละเอียดและเฟรมเรทเท่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นเมื่อปี สองปีก่อน ดีหน่อยที่ใช้ไฟส่องร่วมด้วยได้
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ โทรศัพท์มือถือระดับนี้ควรจะมีอย่างครบครันคือ การเชื่อมต่อ N96 ก็ใส่มาให้ครบตามที่เราต้องการ ได้แก่ ไวไฟ สายดาต้าหัวไมโครยูเอสบี รูเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. ชิปเซ็ตจีพีเอส บลูทูธ และทีวี-เอาท์ ขาดอินฟราเรดไปอย่างเดียว ซึ่งมันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนักหรอก
หน่วย ความจำที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวจาก N95 8GB ทำให้พวกเราใส่อะไรลงไปได้เยอะ ที่หนักหน่อยน่าจะเป็นไฟล์วิดีโอ ซึ่งเมมโมรี่ขนาดนี้รองรับภาพยนตร์ที่เป็นดีวีดี โซน 3 หลายเรื่องได้สบายๆ หรือจะใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลขนาดย่อมก็สะดวกใช่เล่น อ้อ ถ้าคิดว่า 16 กิ๊กไม่พอ จะเพิ่มการ์ดอีกก็ตามสบายนะ
สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นกังวลคือ แบตเตอรี่ขนาด 950 มิลลิแอมป์ในตัวจะใช้งานได้หนักหนาแค่ไหน ยิ่งฟังก์ชั่นเยอะมากเท่าไหร่ แหล่งพลังงานก็ควรจะเพิ่มตามมามากเท่านั้น ลองคิดดูว่าถ้าเล่นเน็ตผ่านไวไฟ เม้าท์กระจุยกับเพื่อนหลายชั่วโมง ไหนจะต้องฟังเพลง หรือถ่ายรูปอีก ท่าทางว่าจะต้องชาร์จทุกวันแน่นอน
กูรูฟันธง
อย่าง ที่บอกไปแล้วว่า เดี๋ยวนี้คนกระเป๋าหนักหันไปเล่นไอโฟนกันหมด ถึงมันจะไม่มีประกัน ถ่ายวิดีโอได้ไม่ดี หรือส่งเอ็มเอ็มเอสลำบากก็ตาม กระนั้นก็ดี N96 ยังมีฟังก์ชั่นแนวเดียวกับเอ็นซีรี่ยส์ในระดับต่ำกว่า คือ มีกล้องแรง เชื่อมต่อด้วยไวไฟ นำทางจากจีพีเอส ใช้เซ็นเซอร์หมุนจอ ฯลฯ หากหาจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับโทรศัพท์ของตัวเองไม่ได้ การจะให้โด่งดังเป็นพลุแตกคงทำได้ยากครับ
ข้อดี
- จอแสดงผล 2.8 นิ้ว
- กล้อง 5 เมกะพิกเซล / กล้องวิดีโอวีจีเอ 30 เฟรมต่อวินาที
- ปุ่มสัมผัสนาวีวีลที่เลื่อนรายการได้เร็ว
- รองรับดีวีบี-เอช (ประเทศไทยรอกันต่อไป)
- เซ็นเซอร์หมุนจออัตโนมัติ
- หน่วยความจำขนาด 16 กิกะไบต์ เพิ่มด้วยไมโครเอสดี
- รูเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และมีลำโพงสเตอริโอ
- เชื่อมต่อด้วยไวไฟ และ ทีวี-เอาท์
- ภาครับสัญญาณจีพีเอส สนับสนุนด้วย เอ-จีพีเอส
ข้อเสีย
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ เป็นรอยง่าย และใช้วัสดุไม่ค่อยเนี้ยบ
- แบตเตอรี่ขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อการเล่นหนักๆ
- กล้องหน้าใช้ถ่ายวิดีโอบนความละเอียดเพียง 176 x 144 พิกเซล
- ระบบดีวีบี-เอชที่ยังใช้การไม่ได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น