Nokia 7610 Supernova

สัดส่วนภายนอก

หลังจาก ที่ได้อ่านพรีวิวมือถือในตระกูลซูเปอร์โนวารุ่นเล็กมา 2 รุ่นแล้ว ถึงคราวพี่ใหญ่ออกโรงเองบ้าง 7610 ถูกจัดระดับไว้สูงสุดตามเลขรหัสรุ่นของโทรศัพท์ชุดนี้ พร้อมด้วยฟังก์ชั่นน่าสนใจหลายประการ และที่ขาดไม่ได้เลยคือสีสันสุดแสบทรวงบนเรือนร่างของมันครับ

การ เปลี่ยนฝาหลังแบบเอ็กซ์เพรส-ออนของรุ่นนี้ทำได้แต่เพียงด้านหลัง และยึดหน้ากากชิ้นหน้าไว้ให้เป็นสีขาวนุ่มนวลหรือดำดุดัน อย่างไรก็แล้วแต่ ผมว่าฝามันแกะออกยากเกินไป เนื่องจากขอบของมันกินพื้นที่ส่วนข้างขึ้นมาหมด ตอนแงะดูจะทุลักทุเลมาก เนื่องจากไหนจะต้องง้างตัวล็อคแล้วดึงให้แยกออกจากกัน ถ้าบีบตรงส่วนบนของเครื่องก็อาจทำให้ระบบสไลด์ของมันอ่อนแอลงได้ ยังไงควรระวังให้ดี


กระจก หน้าจอของ 7610 เคลือบสารเงาๆ อะไรไม่รู้ ถ้าเป็นฟิล์มรถเราอาจจะเรียกว่าฉาบปรอท ตอนจอดับอยู่ก็ดูดีเข้ากับเครื่องแหละ แต่พอจอติดขึ้นมาปุ๊บ รู้ทันทีว่าความสวยงามมันถูกดึงให้ด้อยไป ทั้งความสว่างลดลง สีสันก็ไม่ฉูดฉาดเหมือนรุ่นที่ใช้กระจก (พลาสติก) ธรรมดา เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียกันแน่ เสียดายอีกอย่างคือ พื้นที่แสดงผลมีอยู่แค่ 2 นิ้วตามแนวทแยงเท่านั้นเอง

รอบๆ มีทั้งปุ่มชัตเตอร์ 2 จังหวะ ปุ่มลัดเข้าเครื่องเล่นเพลง ปุ่มปรับเสียงที่ทั้งหมดอยู่ด้านขวา พอร์ตไมโครยูเอสบีอยู่ทางซ้าย และปล่อยให้ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง รูเสียบสายชาร์จ และรูเสียบหูฟัง 2.5 ม.ม. ไว้ข้างบน ส่วนใครที่มองหาตัวห้อยตุ้งติ้งมาตบแต่งเครื่องอยู่ ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ดี เรายังเห็นเลนส์กล้อง ลำโพง และแฟลชอยู่ด้านหลังด้วย หากใครต้องเปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดบ่อยๆ ขอให้แจ้งให้ทราบเลยว่าคุณต้องแงะฝาหลังออกทุกครั้งแน่ เพราะมันอยู่ข้างเครื่องใต้ฝาที่ว่านี่แหละ

ชำแหละเครื่องใน

ผม ล่ะชอบไอเดียของการสร้างธีมจากกล้องถ่ายภาพจริงๆ ดูมันเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็นึกไม่ถึง ภายใน 7610 Supernova มีฟังก์ชั่นที่ชื่อ ธีม คัลเลอร์ไรเซอร์ วิธีการใช้คือ ถ้าคุณอยากเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีไหน ก็ทำการถ่ายรูปวัตถุหรือสิ่งของที่เป็นโทนสีนั้นผ่านเมนูดังกล่าว แป๊บเดียวเครื่องก็จะจัดการเติมแต่งความสวยงามให้กับสกินทุกชิ้น แนะนำว่าให้ถ่ายตอนแสงดีหน่อย สีจะได้สดครับ

ความมีสีสันไม่ได้ หยุดอยู่แค่เรื่องธีมและการเปลี่ยนหน้ากากเท่านั้น เมื่อมีสายเรียกเข้า ไฟแบ็คไลท์ใต้ปุ่ม 5 ทิศก็จะขยับจังหวะอย่างสนุกสนานราวกับมีชีวิตจริง หน้าจอรองรับการใช้ไฟล์วิดีโอและไฟล์แฟลชมาทำเป็นสกรีนเซฟเวอร์ และเมื่อถ่ายภาพมาก็ต่อออกจอทีวีผ่านสายที่แถมมาในกล่องได้ทันที


ปกติ โนเกียจะใส่ฟังก์ชั่นทั่วไปมาให้ครบอยู่แล้ว ไม่เคยตัดเอดจ์ออก ระบบสั่นพร้อมเสียงต้องมี อย่างซูเปอร์โนวารุ่นเดอะจะมาพร้อมกับกล้อง 3 ล้านพิกเซล ฟังก์ชั่นที่ควบคู่มาด้วยเป็นออโต้ โฟกัสกับแฟลช ในขณะเดียวกัน การถ่ายวิดีโอทำได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 3 แสนพิกเซล เฟรมเรตอาจจะน้อยไป แต่อย่าลืมว่านี่คือแฟชั่นโฟน หาใช่แคเมร่อน เอ้ย แคเมร่าโฟนไม่

ในเอส 40 รุ่นใหม่ๆ ไม่เฉพาะเอดิชั่น 6 โนเกียจะใส่ฟีเจอร์อย่างโนเกีย แม็ปส์ให้มา ซึ่งใช้แผนที่ตัวเดียวกับรุ่นที่เป็นเอส 60 จุดนี้อาจจะเสียเงินก็จริง แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่ง เพราะผู้ตามที่นำแผนที่มาใส่ในเครื่องของตัวเองนั้นยังใช้กูเกิ้ล แม็ปส์อยู่ มันต่างกันตรงที่ของโนเกียเป็นแผนที่ออฟไลน์หรือใช้ไฟล์ฝังไว้ในการ์ด เราจึงไม่ต้องทำการโหลดข้อมูลผ่านเครือข่ายตลอดเวลาและนำทางด้วยเสียงได้ ด้วย

จากตารางสเป็ก เรายังเห็นคุณสมบัติที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย อาทิ บลูทูธ เอดจ์ คลาส 32 วิทยุเอฟเอ็ม เครื่องเล่นเพลง และการเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุด 2 กิกะไบต์ ให้เยอะขนาดนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว


กูรูฟันธง

ใน หมู่เหล่าแฟชั่นโฟนในตระกูลซูเปอร์โนวา ผมว่า 7610 ดูดีมีอนาคตไม่แพ้รุ่นใด เนื่องจากมีความเด่นชัดทางด้านฟังก์ชั่น กล่าวคือไม่ใช่ขายแค่หน้าตาอย่างเดียว แต่มันก็ฉลาดใช้ได้เช่นกัน กลุ่มลูกค้าที่ปราถนาโทรศัพท์ตัวนี้คงไม่ใช่นักธุรกิจ กลับกันเป็นวัยรุ่นที่ให้ความสำคัญกับความเป็นตัวของตัวเองมากกว่า เครื่องอาจจะไม่ต้องเทพ ไม่ต้องมีงานประกอบสุดเฟิร์ม แค่เป็นอย่างที่คุณเห็นก็พอแล้ว

ข้อดี

  • เปลี่ยนหน้ากากหลากสีสันด้วยเอ็กซ์เพรส-ออน
  • ฟังก์ชั่นธีม คัลเลอไรเซอร์
  • กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ออโต้ โฟกัส
  • ส่งภาพออกโทรทัศน์ด้วยทีวีเอ๊าท์
  • วิทยุเอฟเอ็มและเครื่องเล่นเพลง
  • การเชื่อมต่อด้วยเอดจ์ บลูทูธ และไมโครยูเอสบี
  • เพิ่มหน่วยความจำได้จากไมโครเอสดี

ข้อเสีย

  • งานประกอบยังไม่แน่นเปรี๊ยะ
  • ฝาครอบแบตเตอรี่ที่แกะได้ยากยามต้องเปลี่ยนการ์ด
  • ความเงาของกระจกจอบดบังความสวยงามของการแสดงผล
  • แบตเตอรี่จุแค่ 860 มิลลิแอมป์


ข้อมูลจาก : whatphon

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น