Wellcom W989

Physical Overview
จอแสดง ผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 2.8 นิ้ว ถึงแม้ว่าจะดูทีวีไม่ได้แต่ก็เอาไว้ใช้เป็นช่องมองภาพขณะถ่ายด้วยกล้อง 8 ล้านพิกเซลได้ถนัดตา ไอคอนเมนูหลักมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เรียงตัวกันแบบ 3 x 4 ใช้สัญลักษณ์ที่ดูเข้าใจง่าย

แผงปุ่มกดของรุ่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสำหรับใช้งานโทรศัพท์ แต่ละปุ่มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ใช้งานสะดวก แต่ปุ่มดอกจัน, หมายเลขศูนย์ และชาร์ปถูกย้ายไปอยู่ด้านข้างขวา อาจจะกดได้ไม่ถนัด ส่วนที่สองมีปุ่มแบบ 5 ทิศสำหรับใช้งานกล้องดิจิตอล มีปุ่มซูมภาพ และปุ่ม M สำหรับเลือกโหมดการถ่ายภาพ

ด้านข้างซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา และใช้ปรับระดับเสียงในโหมดต่างๆ เช่นเครื่องเล่นเพลง ปรับระดับเสียงปุ่มกดและเสียงเรียกเข้าเมื่ออยู่ในโหมดสแตนด์บาย

ที่ ด้านข้างขวาในส่วนล่างเป็นช่องเสียบสายดาต้าลิงค์ สายชาร์จแบตเตอรี่ และชุดหูฟังแบบสเตอริโอรวมอยู่ในช่องเดียวกันทั้งหมด มีแผ่นยางปิดป้องกันฝุ่นละออง ใกล้ๆ กันเป็นช่องร้อยสายปากกาสัมผัสหน้าจอที่มีมาให้ในแพ็คเก็จ หรือจะใช้ร้อยสายคล้องคอ สายคล้องข้อมือก็ได้เช่นกัน

เลนส์รับ ภาพกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ที่ด้านหลัง เมื่อเปิดใช้งานเลนส์รับภาพจะยื่นออกมาเหมือนกับกล้องดิจิตอลจริงๆ และเมื่อปิด เลนส์รับภาพก็จะเก็บเข้าไปโดยอัตโนมัติ ใกล้ๆ กันมีไฟแฟลชแบบ Xenon ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดทำได้ง่ายขึ้น

ปุ่มชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านข้างขวา ไม่สามารถใช้เป็นปุ่มลัดเข้าสู่การถ่ายภาพได้ แต่ก็ยังมีปุ่มลัดมาให้ โดยแต่สัมผัสได้ที่หน้าจอโดยตรง

ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD อยู่ใต้แบตเตอรี่ใกล้กับช่องเสียบซิมการ์ด ซึ่งจะต้องปิดเครื่องก่อนจึงจะถอดเปลี่ยนได้

8 Mega Pixels Digital Camera with Xenon Flash
ถึง คราวที่แบรนด์ใหญ่ๆ ต้องหนาวๆ ร้อนๆ เพราะคราวนี้ Wellcom นำเอาโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส แถมยังซูมภาพแบบออฟติคอล หรือซูมเลนส์ได้สูงสุด 3 เท่าโดยกดปุ่มซูมภาพ และเมื่อบวกกับการซูมภาพแบบดิจิตอลก็จะซูมได้สูงสุดถึง 12 เท่า มีไฟแฟลชแบบ Xenon ที่ใช้ในการถ่ายภาพในกล้องดิจิตอลจริงๆ ซึ่งให้ความสว่างในการถ่ายภาพได้ดีกว่าแบบ LED ทั่วไปมากทีเดียว ด้านหลังของตัวเครื่องยังดูเหมือนกับกล้องดิจิตอลจริงๆ ด้วย สำหรับการถ่ายภาพนั้นจะมีปุ่มสำหรับควบคุมการทำงานของกล้องแยกมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้การตั้งค่าต่างๆ ทำได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น มีให้เลือกปรับความละเอียดสูงสุดที่ 3264 x 2448 พิกเซล มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกแบบ Panorama, Portrait, Landscape, Sports, Night mode และยังมีระบบโฟกัสภาพใบหน้า หรือโฟกัสรอยยิ้มอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Candlelight, Fireworks, Text, Sunset, Sunrise, Beach เป็นต้น มีระบบปรับ White Balance ให้กับภาพโดยอัตโนมัติ เลือกปรับค่าความไวแสง หรือค่า ISO ให้กับภาพได้สูงสุดถึง 1600 ต่ำสุด 64 เลือกปรับโทนสีให้กับภาพถ่ายได้มากถึง 8 แบบ และยังบันทึกวัน เดือน ปี ไว้ที่มุมล่างขวาของภาพได้อีกด้วย


สีสัน และความคมชัดของภาพทำได้ดีเยี่ยม สมราคากล้อง 8 ล้านพิกเซล

เมื่อ กดปุ่ม M เพื่อเลือกโหมดการถ่ายภาพก็จะสลับไปเป็นโหมดถ่ายคลิปวิดีโอ มีให้เลือกความละเอียดสูงสุดถึงระดับ VGA 30 เฟรมต่อวินาที เทียบเท่ากับกล้องถ่ายวิดีโอทั่วไปเลยทีเดียว ระยะเวลาที่ถ่ายในความละเอียดนี้จะใช้พื้นที่หน่วยความจำค่อนข้างมาก โดยสังเกตระยะเวลาในการถ่ายที่เหลือได้จากมุมล่างขวาของหน้าจอ และควรจะเลือกบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำภายนอก เพราะในเครื่องมีมาให้เพียง 60 MB นอกจากนี้ยังเลือกความละเอียดของภาพได้ที่ระดับ QVGA ซึ่งจะใช้พื้นที่หน่วยความจำน้อยกว่า


MP3 Player
ลำโพง ของเครื่องเล่นเพลงอยู่ที่ด้านบน หรืออาจจะฟังผ่านชุดหูฟังแบบสเตอริโอธรรมดา ฟังผ่านชุดหูฟังไร้สายบลูทูธแบบสเตอริโอก็ได้เช่นกัน การเลือกไฟล์เพลงของรุ่นนี้จะเลือกได้จากหน่วยความจำเครื่อง หรือจากหน่วยความจำ microSD อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถเลือกไฟล์เพลงจากทั้งสองหน่วยความจำรวมกันได้ มีโหมดเล่นเพลงแบบ Repeat และ Shuffle เลือกโทนเสียงให้กับการฟังเพลงได้ 7 แบบ อย่างเช่น Bass, Classic, Dance เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็คท์เสียงสามมิติได้ทั้งแบบ Concert, Shower, Small room


Business Zone
ใน เมนูนี้จะเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตัวเครื่อง ระบบตอบรับอัตโนมัติ ในเมนูแรกขื่อว่า Anti Steal ผู้ใช้ต้องตั้งค่าหมายเลขโทรศัพท์ผู้ร้บข้อความที่ตัวเครื่องจะส่งออกไปโดย อัตโนมัติเมื่อเครื่องถูกขโมยไปแล้วนำไปใช้กับซิมการ์ดหมายเลขอื่น ซึ่งจะช่วยตามหาตัวคนที่นำเครื่องไปใช้ได้ง่ายขึ้น จากหมายเลขโทรศัพท์ที่ส่งข้อความออกมา หรือหากตามตัวไม่ได้จริงๆ ก็สามารถใช้ฟังก์ชั่น Remote Control เพื่อที่จะสั่งให้เครื่องปิดตัวเอง, ล็อคโทรศัพท์ หรือส่งข้อมูลจากในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นสมุดโทรศัพท์ ข้อความ โดยตัวเครื่องจะส่งผ่านข้อความ SMS ซึ่งจะคิดค่าส่งจากซิมการ์ดที่หัวขโมยนำมาใช้ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้เครื่องฟอร์แมทการ์ดหน่วยความจำ, ลบข้อมูลในสมุดโทรศัพท์ ข้อความ สำหรับคำสั่งที่ใช้รีโมทเครื่องจะเป็นโค้ด อย่างเช่นคำสั่ง TYRC123456POFF คือคำสั่งให้เครื่องปิดตัวเอง โดยที่ตัวเลข 123456 คือรหัสที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนคำสั่งอื่นๆ ก็จะมีมาให้อยู่แล้วในตัวเครื่อง

เมนู Black list และ SMS Black list คือฟังก์ชั่นที่จะช่วยกำจัดสายที่ไม่ต้องการรับสาย เพียงแค่ใส่หมายเลขที่ไม่ต้องการรับสาย หรือรับข้อความ SMS ลงไป สำหรับเมนู Private Protect จะช่วยรักษาข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้โทรศัพท์, สมุดโทรศัพท์, ข้อความต่างๆ ซึ่งจะต้องใส่รหัสผ่านก่อนเข้าใช้งาน สุดท้ายกับฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า In call leave word หรือระบบฝากข้อความอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถกำหนดให้เครื่องดังกี่วินาทีจึงตัดเข้าสู่ระบบตอบรับอัตโนมัติ เลือกระยะเวลาที่ให้ผู้โทรเข้าฝากข้อความได้กี่นาที ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าโทรเข้าไปเช็คใน Voice mail box ไปได้มากทีเดียว เพราะเปิดฟังข้อความเสียงได้จากตัวเครื่องได้โดยตรง


Final Opinion & Conclusion
ถ้า คุณมีงบประมาณสำหรับซื้อกล้องดิจิตอลประมาณ 9 พันบาท น่าจะนำ Wellcom W989 ไปพิจาณาอีกตัวเลือกหนึ่ง เพราะในราคานี้จะได้ทั้งกล้องดิจิตอลแท้ๆ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมภาพแบบออฟติคอล กล้องถ่ายวิดีโอ โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส เครื่องตอบรับอัตโนมัติ เครื่องเล่นเพลงรวมทั้งหมดไว้ในเครื่องเดียว อย่างนี้ถ้าบอกว่าไม่คุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ


Strength
  • กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ซูมภาพแบบออฟติคอล 3 เท่า
  • ไฟแฟลชแบบ Xenon ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูง
  • เครื่องเล่นเพลง MP3 ในตัว
  • เชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ
  • ระบบตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติในตัว
  • มีฟังก์ชั่นรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
  • รองรับจาวาแอฟพลิเคชั่น
  • ต่อภาพหน้าจอออกทีวีได้
  • แบตเตอรี่ในแพ็คเก็จ 2 ก้อนพร้อมแท่นชาร์จ และสาย TV-Out

Weakness

  • ตัวเครื่องขนาดใหญ่ และหนัก
  • เลือกรายการเพลงจากหน่วยความจำเครื่อง และ microSD รวมกันไม่ได้


ข้อมูลจาก : whatphone.net

Sony Ericsson Xperia X1

ตื่นตากับ X Panel บน Windows Mobile รุ่นแรกของ Sony Ericsson X Panel - Windows Mobile 6.1 Professional

หลัง จากที่ Sony Ericsson จับระบบปฏิบัติการ Symbian UIQ มาใช้กับสมาร์ทโฟนมานาน ถึงเวลาเปลี่ยนมาเป็น Windows mobile กับ Xperia X1 เป็นรุ่นแรก โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Windows mobile 6.1 Professional เวอร์ชั่นล่าสุด แต่สิ่งที่ต่างจากพ็อคเก็ตพีซีทั่วไปก็คืออินเตอร์เฟสแบบ X Panel โดยมีปุ่มให้กดเลือกที่ใต้จอแสดงผล มีให้เลือกมากถึง 9 แบบ แต่ละแบบก็จะมีการแสดงผลที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลแบบนาฬิกาขนาดใหญ่, เป็นตู้ปลาทองที่แตะหน้าจอแล้วปลาก็จะว่ายหนี, ปฏิทิน, เครื่องเล่นเพลง หรือวิทยุ FM, รายงานสภาพอากาศ เป็นต้น เรียกว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ไม่มีเบื่อ นอกจากนี้แล้วยังมีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มาให้เพื่อความคล่องตัวในการพิมพ์ข้อความด้วย



Hi- Performance Processing Unit

หน่วย ประมวลผลความเร็วสูงถึง 528 MHz ซึ่งถือว่ามีความเร็วในระดับสูงเมื่อเทียบกับพ็อคเก็ตพีซีในระดับเดียวกัน จากการใช้งานพบว่าตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันใจ รวมไปถึงระบบ Transition ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างเนียน สำหรับหน่วยความจำก็มี ROM มาให้ 512 MB และ RAM ขนาด 256 MB เพิ่มได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD โดยรวมแล้วถือว่า Sony Ericsson Xperia X1 มี Hardware ที่มีคุณภาพสูง ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงด้วยเช่นกัน

3.2 Mega Pixels Touch Focus Digital Camera

เรา เห็นระบบโฟกัสภาพที่เลือกจุดได้ตามต้องการจาก Sony Ericsson G900 มาแล้ว มาถึง Xperia X1 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นกัน เมื่อเลือกเปิดใช้งาน Touch Focus ผู้ใช้สามารถเลือกจุดโฟกัสที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยปลายนิ้วได้ตามต้องการ จากนั้นก็กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเพื่อให้กล้องโฟกัสไปยังจุดที่ตั้งเอา ไว้ แล้วกดลงย้ำลงไปอีกครั้งเพื่อบันทึกภาพ สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Portrait, Landscape, Twilight, Sports หรือ Document เลือกเปิด หรือปิดไฟช่วยส่องสว่างแบบ LED ได้ ตัวกล้องมีระบบปรับ White balance ให้กับภาพโดยอัตโนมัติ มีเอฟเฟ็คท์สีให้เลือก 4 แบบ เลือกถ่ายภาพแบบ Wide screen ได้ มีเสียงชัตเตอร์ให้เลือก 4 แบบ หรือจะเลือกปิดเสียงขณะถ่ายภาพก็ได้ มีฟังก์ชั่นบันทึกเวลา และวันที่ลงภาพถ่ายได้ ส่วนการถ่ายคลิปวิดีโอก็เลือกถ่ายได้นานไม่จำกัดตามหน่วยความจำที่เหลือ เลือกความละเอียดได้สูงถึงระดับ VGA หรือ 640 x 480 พิกเซล 15 เฟรมต่อวินาที มีฟังก์ชั่นการตั้งค่าเหมือนกับการการถ่ายภาพนิ่ง น่าเสียดายที่ไม่มีฟังก์ชั่นบันทึกพิกัด GPS ลงบนภาพถ่ายมาให้


หลังจากที่รอมานาน ภาพจากกล้องก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

Music Player & FM Radio

เครื่อง เล่นเพลงของ Xperia X1 โดยพื้นฐานแล้วยังคงอาศัยโปรแกรม Windows Media Player ที่มีมาให้พร้อมกับ Windows mobile แต่จะมี X Panel ที่เป็นศูนย์รวมไฟล์สื่อต่างๆ ทั้งภาพถ่าย ไฟล์เพลง คลิปวิดีโอ สำหรับเครื่องเล่นเพลงนั้นจะมีระบบการแบ่งหมวดหมู่เพลงตามรายชื่อศิลปิน ชื่ออัลบั้ม และยังสร้างรายการเพลง หรือ Playlist ส่วนตัวขึ้นมาได้ เมื่อเลือกเล่นเพลงแล้วโปรแกรม Windows Media Player จะถูกเปิดขึ้นมาทันที ไฟล์เพลงที่มีรูปภาพแนบมาก็จะแสดงบนหน้าจอด้วย ส่วนโหมดการเล่นเพลงก็จะมีแค่เล่นเพลงแบบเล่นสุ่ม (Shuffle) และเล่นซ้ำ (Repeat) แต่ไม่มีให้เลือกปรับแต่งโทนเสียงเหมือนกับโทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson ตระกูลอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. มาให้ด้วย


GPS Navigator

ไม่ รู้ว่า Sony Ericsson ไทยแลนด์จะแถมโปรแกรมระบบนำทาง GPS มาให้เหมือน Windows mobile ค่ายอื่นๆ หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ มีโปรแกรมฟรีอย่าง Google maps แถมมาให้ในเครื่อง ใช้เป็นระบบนำทางก็ได้เช่นกัน แต่จะมีข้อเสียตรงที่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช้โปรโมชั่นเหมาจ่ายคงจะหน้ามืดหลังจากเห็นบิลค่าบริการอย่างแน่นอน

HSDPA Network Support

จากสเป็คของ เครื่องที่รองรับการเชื่อมต่อในระบบ 3.5G บนเครือข่าย UMTS แล้วน่าจะนำมาใช้กับบ้านเราในอนาคตได้ เพราะรองรับความถี่ค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่ 850, 900, 1700, 1900, 2100 MHz ซึ่งผู้ให้บริการในบ้านเราอาจจะใช้ความถี่ 850 และ 900 MHz ให้บริการในระยะแรก และ 2100 MHz จะเปิดให้บริการภายหลัง แต่ถึงอย่างไร Sony Ericsson Xperia X1 ก็ครอบคลุมการใช้งานทุกย่านความถี่อยู่แล้ว ตัวเครื่องยังมีกล้องด้านหน้าสำหรับใช้งาน Video call มาให้ด้วย


Final Opinion & Conclusion

เปิด ตัวบนเวบไซต์ให้เราเกิดกิเลสมานาน ได้ฤกษ์งามยามดีที่เราจะได้ยลโฉมตัวเป็นๆ กันเสียที Sony Ericsson Xperia X1 หรือที่เรียกสั้น “เอ๊กซ์วัน” มีความโดดเด่นที่ดีไซน์การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว คีย์บอร์ดในตัว เมื่อสไลด์ออกมาหน้าจอจะโค้งรับกับสายตาผู้ใช้ทันที แต่นั้นยังไม่หมดความน่าสนใจเพียงเท่านี้ ตัวเครื่องยังมีหน่วยประมวลผลความเร็วสูงในอันดับต้นๆ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows mobile มี X Panel หรือหน้าจอ Today ให้เลือกมากถึง 9 แบบ ที่ไม่เหมือนพ็อคเก็ตพีซีรุ่นอื่นๆ หน้าจอความละเอียดสูงแบบ Wide VGA ถ้าอยากลองเล่นเจ้า X1 ตัวจริง พร้อมจองเครื่องก่อนใครได้ที่งาน Thailand mobile expo ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขอบอกว่าพริตตี้ปีนี้น่ารักมากๆ อย่าพลาดเป็นอันขาด


Strength

- X Panel ที่ต้องลอง ถึงจะรู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน
- จอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Wide VGA
- Windows Mobile เวอร์ชั่นใหม่รุ่นแรกของค่ายนี้
- กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส
- เลือกจุดโฟกัสภาพได้ตามใจต้องการ
- เครื่องเล่นเพลงพร้อมช่องเสียบชุดหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.
- วิทยุ FM แบบสเตอริโอในตัว
- ภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS ในตัว
- เชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ (A2DP) และ Wi-Fi
- รองรับ HSDPA บนเครือข่าย UMTS
- คีย์บอร์ดแบบ Full QWERTY ในตัว

Weakness

- เลือกปรับโทนเสียงในเครื่องเล่นเพลงไม่ได้
- บันทึกพิกัดลงบนภาพถ่ายไม่ได้
- กล้องวิดีโอน่าจะถ่ายได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที


ข้อมูลจาก : whatphone.net

phoneOne M702

Analog TV Receiver
phoneOne M702 เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับการรับชมทีวีแบบพกพา เพราะหน้าจอขนาดนี้กำลังรับชมทีวีได้พอดี หากเล็กไปกว่านี้ก็อาจจะต้องเพ่งซึ่งอาจจะปวดตาได้ ภาครับสัญญาณทีวีในเครื่องเป็นแบบอนาล็อค จึงรับสัญญาณฟรีทีวีได้เกือบทุกช่อง ซึ่งหากนับเฉพาะช่องหลักๆ ก็ถือว่ารับได้ทุกช่องไม่ว่าจะเป็นช่อง 3, 5, 7, 9, NBT (ช่อง 11 เดิม) และ ThaiPBS (ช่อง TiTV เดิม) สำหรับการตั้งค่าใช้งานครั้งแรกก็เพียงแค่เลือกไปที่ประเทศไทย จากนั้นตัวเครื่องจะทำการสแกนหาคลื่นอัตโนมัติ แต่ควรจะอยู่ในที่โล่ง หรือที่สูง ภาครับทีวีจึงจะสแกนหาสัญญาณได้ครบทุกช่อง จากการใช้งานจริงพบว่าควรดึงเสาอากาศออกมาให้สุด หมุนซ้ายขวาจนกว่าจะได้ภาพที่ชัดเจน และหากยังไม่ชัดเจนก็ควรหาสถานที่โล่ง และในที่สูง จะช่วยให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น


Dual SIM, Dual Standby
ซิ มการ์ดที่จะนำมาใช้กับ phoneOne M702 นั้นจะต้องเป็นของผู้ให้บริการความถี่ 900 และ 1800 MHz เท่านั้น ซึ่งก็ครอบคลุมผู้ให้บริการแทบจะครบทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็นความถี่ 900 MHz ที่ให้บริการโดย AIS GSM และ 1800 MHz ที่ให้บริการโดย DTAC, True move และ GSM1800 ส่วน Thai Mobile ที่ใช้ความถี่ 1900 MHz นั้นตัวเครื่องจะไม่รองรับ ในส่วนของผู้ใช้จะต้องเลือกว่าจะใช้ซิมการ์ดหมายเลขใดในช่องไหน และจะต้องจำให้ได้ เพราะอาจสับสนโทรออกผิดเบอร์ได้ รายชื่อผู้ให้บริการจะปรากฎอยู่บนหน้าจอทั้ง 2 ซิม โดยจะมีหมายเลข 1 และ 2 กำกับอยู่ และยังแสดงความแรงของสัญญาณของค่ายนั้นๆ ทั้ง 2 ซิมด้วย

สำหรับ การโทรออกก็เพียงแค่กดหมายเลขโทรศัพท์แล้วเลือกโทรออกที่ปุ่มหมายเลข 1 หรือ 2 แล้วสนทนาตามปกติ หากมีสายเข้าที่อีกหมายเลข ตัวเครื่องจะมีเสียงเตือนเหมือนสายเรียกซ้อน ต้องสังเกตเอาเองว่าเป็นสายที่โทรเข้ามาอีกเบอร์ หรือเป็นสายเรียกซ้อน หากเป็นสายที่โทรเข้ามาอีกเบอร์ก็สามารถพักสายก่อนหน้านี้เพื่อสนทนากับสาย ที่โทรเข้ามาได้ หากคุยเสร็จก็กลับไปสนทนากับสายก่อนหน้านี้ได้ ไม่สามารถสนทนาพร้อมกัน 3 สาย แต่หากเป็นสายที่โทรเข้ามาเบอร์เดียวกันจึงจะสนทนา 3 สายได้ ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ และข้อความ SMS ก็จะมีหมายเลขกำกับ บ่งบอกให้ทราบว่ามาจากซิมการ์ดใด ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน GPRS ตัวเครื่องจะเรียกใช้งานจากซิมการ์ดที่ 1 เท่านั้น หากต้องการใช้งานซิมการ์ดที่ 2 ก็จะต้องปิดเครื่องเพื่อสลับมาใช้เท่านั้น นอกจากนี้แล้วระบบจัดการใช้งานยังมีให้เลือกเปิดเฉพาะ SIM1 หรือ SIM2 หรือเลือกเปิดทั้ง 2 ซิมก็ได้เช่นกัน



MP3 Player & FM Radio Receiver
เครื่อง เล่นเพลงของรุ่นนี้จำเป็นต้องมีการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD เท่านั้น เพราะตัวเครื่องไม่มีหน่วยความจำมาให้เลย เมื่อจัดการดาวน์โหลดเพลงลง microSD เรียบร้อยแล้วก็เปิดฟังเพลงได้ทันที อาจจะเปิดฟังผ่านลำโพงของตัวเครื่องที่ให้เสียงกระหึ่มแล้ว เมื่อเสียบชุดหูฟังเข้าไป เสียงก็จะดังที่ชุดหูฟัง หากมีชุดหูฟังบลูทูธแบบสเตอริโออยู่แล้วก็นำมาเชื่อมต่อเพื่อฟังเพลงแบบไร้ สายก็ได้เช่นกัน มีโหมดการเล่นเพลงให้เลือกแบบ Repeat และ Shuffle เลือกปรับโทนเสียงในแบบต่างๆ ได้มากถึง 7 แบบ

วิทยุ FM แบบสเตอริโอของ phoneOne M702 ก็ไม่จำเป็นต้องเสียบชุดหูฟังเป็นเสาอากาศ เพราะใช้เสารวมกับวิทยุ FM อยู่แล้ว มีระบบค้นหาคลื่น พร้อมทั้งบันทึกลงในหน่วยความจำให้ผู้ใช้เลือกฟังได้โดยแบบอัตโมัติ หรือจะเลือกบันทึกเองตามต้องการด้วยหน่วยความจำที่มีมาให้ 9 ช่อง


Dual VGA Digital Camera
กล้อง ดิจิตอลที่มีมาให้ถึง 2 ตัว โดยที่ตัวด้านหน้าใ้ช้สำหรับถ่ายภาพตัวเอง ซึ่งจะถ่ายได้ง่ายกว่าการถ่ายด้วยกล้องด้านหลังแล้วกะระยะจากกระจกเงา แต่ความละเอียดของของทั้งสองมีมาให้เพียง 3 แสนพิกเซลเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น และแน่นอนว่าจะต้องบันทึกลงในหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD เท่านั้น หากไม่ได้เสียบเอาไว้ก็จะถ่ายภาพไม่ได้เลย สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอก็ถ่ายได้นานจนกว่าหน่วยความจำจะเต็ม และใช้ถ่ายได้ทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง



ความละเอียด 3 แสนพิกเซลแต่ให้สีสันสวยงามใช้ได้


Final Opinion & Conclusion
ถ้า คุณติดละคร อยู่หอพักที่ไ่ม่มีทีวี หรือต้องเดินทางบ่อยๆ การหามือถือที่ดูทีวีได้เป็นทางออกที่ไม่เลวเลยทีเดียว phoneOne M702 ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งในนั้น แถมยังไม่ต้องพกโทรศัพท์ 2 เครื่องอีกต่างหาก นอกจากจะดูทีวีได้แล้วยังเป็นเครื่องเล่นเพลง MP3 วิทยุ FM กล้องถ่ายรูปได้อีกด้วย สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 7990 บาทนั้นก็ถือว่าสมเหตุสมผล ใช้เป็นเพื่อนคลายเหงา ติดต่อสื่อสาร และศูนย์บริการ TWZ ที่มีทั่วประเทศน่าจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ยิ่งขึ้น


Strength

  • ภาครับสัญญาณทีวี และวิทยุ FM ในตัว
  • เปิดใช้งาน 2 ซิมการ์ดได้พร้อมกันในเครื่องเดียว
  • เครื่องเล่นเพลง MP3 รองรับชุดหูฟังไร้สายบลูทูธแบบสเตอริโอ
  • กล้องดิจิตอลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถ่ายวิดีโอได้ไม่จำกัด
  • เพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
  • ฟังก์ชั่น VIP เก็บข้อมูลส่วนตัว

Weakness

  • ไม่มีหน่วยความจำเครื่องมาให้
  • กล้องความละเอียดเพียง 3 แสนพิกเซล


ข้อมูลจาก : whatphone.net

Nokia 6600 fold

สัดส่วนภายนอก

ทำไปทำมาไอ้ ตัวเล็กนี่มันก็เข้าข่ายแฟชั่นโฟนได้เหมือนกันนะ ด้วยสีสันอันหวานแหววของเครื่องทดสอบที่เราได้รับมา บวกกับดีไซน์และวัสดุอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ 6600 fold มีสไตล์เป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน ไม่ต้องลอกเลียนแบบใคร เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าเป็นยังไง

ปกติแล้วจะมีโทรศัพท์สีแปลกๆ ถูกผลิตออกมามากมายหลายรุ่น อาจทำเป็นทูโทนหรือยังไงก็แล้วแต่ ทว่าการไล่สีแบบเกรเดียนท์ (Gradient) ยังไม่เคยปรากฏในพงศาวดารมือถือแห่งโลกใบนี้ (หรือมีแล้วแต่ผมพลาดไป) ด้านบนสุดใกล้ไฟกะพริบเป็นสีเข้มจนเกือบดำไล่มาเรื่อยๆ จะเห็นเป็นสีอ่อนลงจนเกือบขาวที่ส่วนปลาย และใต้ผิวของมันเองเป็นที่อยู่ของจอแสดงผล ซึ่งใช้งานได้ตามปกติเหมือนมือถือทรงฝาหอยทั่วไป เวลาตัวหนังสือติดขึ้นมานี่สวยอย่าบอกใครเชียว ราวกับว่ามันลอยขึ้นมาข้างบนอย่างไรอย่างนั้น



ส่วน ต่อเชื่อมของฝาพับชิ้นบนและชิ้นล่างถูกประกบติดไว้จนแทบจะเป็นแผ่นเดียวกัน จุดนี้ก็เป็นความสวยงามอีกอย่างหนึ่งของ 6600 fold ฝาหลังทั้งชิ้นเน้นไปทางสีเข้มมากกว่า และมีเลนส์กล้องกับแฟลชอยู่เหนือสุด ด้วยวัสดุที่ใช้และการประกอบโดยรวมอันแน่นหนา ทำให้มันแข็งแรงเข้าท่าดีทีเดียว

ทีเด็ดของโนเกียสีสวยอยู่ที่การ เปิดฝาพับแบบอัตโนมัติด้วยปุ่มกดด้านขวา เรื่องนี้เคยผ่านตามาบ้างแล้วในมือถือของซัมซุง จึงไม่ใช่ของใหม่อย่างที่บางคนเข้าใจ การทำงานมีความต่างกันอยู่บ้าง เนื่องจาก “โฟลด์” มีกลไกแบบสปริงเด้ง แล้วใช้ระบบแม่เหล็กไฟฟ้าใต้คีย์แพดยึดฝาทั้งสองชิ้นเข้าด้วยกัน ไม่ใช่มอเตอร์ไฟฟ้าที่เปิดปิดได้เนียนกว่าและกดปุ่มเพื่อปิดฝาได้ด้วย กระนั้นเอง ข้อดีของมันคือบริโภคพลังงานน้อยกว่า แต่ข้อเสียก็มีให้เห็น อย่างการที่บางครั้งกดแล้วฝาไม่เปิดออก ต้องขยับชิ้นส่วนให้เข้าที่เข้าทางกันเล็กน้อย

ชำแหละเครื่องใน

ขณะ ที่หลายรุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องเด่นอย่างกล้อง การเชื่อมต่อด้วยไวไฟ หรือฟังก์ชั่นตลาดต่างๆ นานา 6600 fold กลับเลือกที่จะทิ้งคุณสมบัติเหล่านั้น และสร้างความเป็นตัวของตัวเองด้วยปุ่มกดเปิดฝาอัตโนมัติและเซ็นเซอร์ตรวจจับ ความเคลื่อนไหวมากกว่า เซ็นเซอร์อันนี้ทำงานได้เหมือนกับรุ่นอื่น คือ เคาะตรงฝาพับด้านหน้าเพื่อเรียกดูเวลาปัจจุบัน หยุดเสียงเรียกเข้า รวมไปถึงการปฏิเสธสาย คาดว่าเมื่อเคาะบ่อยเข้า พื้นที่ตรงนั้นอาจเป็นรอย

เนื่องจากไม่ได้ใช้กระจกกันรอยเหมือนรุ่นแพงนั่นเอง

จอ หลักแบบโอเล็ดของรุ่นนี้แสดงสีได้สดมากๆ ซึ่งอันที่จริงมันก็เป็นคุณสมบัติของจอชนิดนี้อยู่แล้ว ส่วนยูสเซอร์ อินเทอร์เฟส ของโนเกีย เอส 40 เอดิชั่นใหม่ได้มีการเพิ่มลูกเล่นบางประการเข้ามา อาทิ การใช้แถบไฮไลท์ที่มีทรานซิชั่น เอฟเฟ็คเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น โนเกีย แม็ปส์ แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนในค่ายก็ปรากฏตัวอยู่ด้วย อย่างไรก็ดี มันยังขาดระบบสมาร์ทเสิร์ชที่มีให้แทบจะทุกยี่ห้อไป แม้แต่มือถือโออีเอ็มก็มี


เหตุ ที่โนเกียต้องเลือกใช้แบตเตอรี่ความจุถึง 1,040 มิลลิแอมป์ใน 6600 fold ก็เพราะว่า ระบบเปิดฝาอัตโนมัติจะกินไฟมากกว่าโทรศัพท์ทั่วไป ถึงตอนแรกผมจะบอกว่ามันประหยัดกว่าการเปิด-ปิดฝาด้วยมอเตอร์ก็เหอะ สังเกตได้ว่าถ้าเราปิดเครื่องอยู่ ระบบนี้จะไม่ทำงาน ผู้ใช้จึงต้องง้างฝาออกเอง ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้อายุการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งไม่ได้ยาวนานอะไร

แม้ว่ากล้องดิจิตอลสำหรับถ่ายภาพนิ่งจะมีความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซล และปราศจากการโฟกัสภาพอัตโนมัติก็ตาม เรายังโชคดีที่การถ่ายวิดีโอทำระดับเรโซลูชั่นได้สูงถึง 3 แสนจุด บนอัตรา 15 เฟรมต่อวินาที หรือขนาดเล็กลงมาหน่อยที่วีจีเอ แต่ได้ 30 เฟรมต่อวินาที ทำให้เอามาตัดต่อกับเขาได้เหมือนกัน

อีกเรื่องที่ผมอยากให้ทุก ท่านพลิกไปดูในหน้าตารางสเป็กคือ แอพพลิเคชั่นที่เป็นจาวาของรุ่นนี้ เห็นให้มาเยอะเอาการ ใช้กันไม่หวาดไม่ไหวกันเลยล่ะ


กูรูฟันธง

ถ้า คิดเป็นอัตราส่วนระหว่างเรื่องดีไซน์กับฟังก์ชั่น ผมว่าโนเกียให้ความสำคัญกับ 6600 fold ในระดับ 60:40 เพราะดูแล้วมีน้ำหนักในส่วนของการออกแบบมากกว่าจริงๆ แต่ใช่ว่าคุณสมบัติทั่วไปจะไม่ดีเลย ยังไงเมื่อเทียบกับรุ่นกึ่งกลางกึ่งล่างอย่าง 7310 Supernova เจ้านี่ยังมีความดีความชอบเหนือกว่าอยู่หนึ่งช่วงตัว ที่เหลือคือเรื่องราคา ดูซิว่าท้ายสุดแล้วคุณจะรับได้หรือเปล่า...ก็เท่านั้น

ข้อดี

เซ็นเซอร์แอคเซเลโรมิเตอร์ที่ช่วยสั่งงานผ่านการเคาะตัวเครื่อง
ปุ่มเปิดฝาพับแบบอัตโนมัติ (กลไกแม่เหล็กไฟฟ้า)
กล้องวิดีโอระดับวีจีเอ 15 เฟรมต่อวินาที
เชื่อมต่อผ่านไมโครยูเอสบี บลูทูธ และเอดจ์ คลาส 32
วิทยุเอฟเอ็มและเครื่องเล่นเพลง
เพิ่มหน่วยความจำด้วยไมโครเอสดีการ์ด
จอแสดงผลแบบโอเล็ดสีสดมาก
ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก

ข้อเสีย

กล้องไม่มีออโต้ โฟกัส
บางทีกดปุ่มแล้วฝาก็ไม่เปิด (นานๆ ครั้ง)
ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่าย
จอยังไม่ค่อยสว่าง (เป็นธรรมดาของโอเล็ด)


ข้อมูลจาก : whatphone.net

Nokia 5800 XpressMusic

เปิดประเดิมรีวิวแรกของเวบ Nokia Gang ด้วย Nokia 5800 XpressMusic ที่มาแรงที่สุดส่งท้ายปี 2008 ด้วยความสดใหม่ของระบบปฏิบัติการ Symbian 9.3 บนหน้าจอแบบสัมผัสรุ่นที่ 3 ต่อจาก Nokia 7710 และ 6708 ทั้งสองรุ่นกลับไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดไว้ แต่ถ้าเป็น Nokia 5800 XpressMusic คงจะตรงกันข้าม เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวบนเวบไซต์ก็ได้รับเสียบตอบรับกันอย่างหนาหู

Physical Overview


หน้า จอแสดงผลแบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ถึง 3.2 นิ้ว แสดงผลได้ 16.7 ล้านสี ความละเอียดอยู่ที่ 640 x 360 พิกเซล ซึ่งเป็นอัตราส่วน 16:9 เห็นตัวเลขนี้คงจะคุ้นๆ เพราะอัตราส่วนนี้มักจะใช้กับภาพยนต์แบบ Wide Screen การใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนโดยวางเครื่องในแนวนอน หน้าจอจะถูกปรับเปลี่ยนให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการดูหนัง หรือใช้พิมพ์ข้อความ ซึ่งจะทำได้สะดวกกว่า เพราะคีย์บอร์ดเสมือนจะมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อใช้งานในแนวตั้ง




เหนือ จอแสดงผลมีช่องลำโพงสนทนา ให้เสียงที่ดังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ดัง และไม่เบาจนเกินไป ถัดมาเป็นเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง เมื่อแสงสว่างเพียงพอก็จะหรี่หน้าจอโดยอัตโนมัติ ใกล้ๆ กันเป็นเลนส์รับภาพของกล้องดิจิตอลสำหรับใช้งาน Video call ใช้ถ่ายภาพไม่ได้ ใต้เลนส์รับภาพยังมีปุ่ม Media bar แบบสัมผัส โดยมีไฟสีส่องสว่างสีขาวที่จะติดพร้อมกับหน้าจอ บริเวณด้านบนนี้ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ หรือ Proximity Sensor เมื่อมีการใช้งานโทรศัพท์โดยนำไปแนบกับใบหู หน้าจอก็จะถูกปิด และเมื่อสนทนาเสร็จแล้วยกออกจากใบหู หน้าจอก็จะสว่างโดยอัตโนมัติ จึงช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ไปได้อีกเล็กน้อย



ใต้จอแสดงผลมีเพียงแค่ 3 ปุ่ม ปุ่มแรกคือปุ่มรับสาย ปุ่มกลางคือปุ่มเมนู และปุ่มขวาสุดเป็นปุ่มวางสาย





ด้าน ข้างซ้ายมีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และช่องเสียบซิมการ์ด ช่องเสียบทั้งสองมีฝาปิดเป็นบานพับ สำหรับการใส่ซิมการ์ดนั้น หากรู้อยู่แล้วว่าต้องใส่ซิมการ์ดด้านใดก็เสียบเข้าไปได้ทันที แต่หากใช้งานครั้งแรก หรือยังจำไม่ได้ก็ควรจะเปิดฝาหลัง และถอดแบตเตอรี่ออก โดยจะมีวิธีการใส่ซิมการ์ดกำกับอยู่ ส่วนการถอดซิมการ์ดจำเป็นต้องถอดฝาหลัง และถอดซิมการ์ดออกมา จากนั้นก็นำเอาปลายปากกาสไตลัสดันมันออกมา



ลำโพง ของตัวเครื่องแบบสเตอริโอยังอยู่ที่ด้านข้างซ้ายนี้เช่นกัน ให้เสียงที่ค่อนข้างใส และมีมิติแยกซ้ายขวาชัดเจน อีกทั้งยังมีเสียงทุ้มออกมาอีกเล็กน้อย ส่วนความดังของเสียงนั้นทำได้ดังมากทีเดียว




ด้าน ข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา ถัดลงมาเป็นสวิตซ์เลื่อนสำหรับล็อค/ปลดล็อคปุ่มกด และสุดท้ายกับปุ่มกล้อมชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะสำหรับการถ่ายภาพด้วยระบบออโต้กัส




ด้าน บนของตัวเครื่องมีช่องเสียบสายดาต้าลิงค์แบบ micro USB ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ถัดมาเป็นช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. และยังเป็นช่องเสียบสาย TV-Out อีกด้วยใกล้ๆ กันเป็นช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ และสุดท้ายเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง









ช่องเสียบปากกาสไตลัสอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ตัวปากกาเป็นพลาสติกแข็ง ยาวประมาณ 9 ซม.



เลนส์ รับภาพกล้องดิจิตอลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลอยู่ที่ด้านหลัง มีไฟช่วยส่องสว่างแบบ LED มาให้ 2 ดวงสำหรับถ่ายในที่มืด และยังเป็นไฟ

Feature
Wide Screen Touch Display


แม้ ว่าจะไม่ใช่รุ่นแรกของค่ายนี้ที่ใช้หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส แต่ก็เป็นรุ่นแรกของ Symbian 9.3 ที่ใช้หน้าจอแบบนี้ การสัมผัสหน้าจอของรุ่นนี้สามารถใช้ปลายนิ้วแตะสัมผัสได้โดยตรง เพราะไอคอนเมนู และเมนูย่อยต่างๆ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แตะใช้งานได้สะดวก แต่เมนูย่อยจะต้องแตะ 2 ครั้งเพื่อยืนยันการเข้าเมนู นอกจากนี้ยังใช้ปากกาสไตลัสที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง และ Plectrum ที่มีลักษณะเป็นพลาสติกสามเหลี่ยมคล้ายปิ๊กกีต้าร์ โดยมีสายคล้องกับตัวเครื่องมาให้ครบครัน แต่ละครั้งที่แตะสัมผัสหน้าจอ ตัวเครื่องก็จะสั่นเบาๆ ตอบสนองการสั่งงาน หรือจะเลือกไม่ให้เครื่องสั่นก็ทำได้เช่นกัน สำหรับการทดสอบใช้งานทั่วไปนั้นถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ในการใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian

ในเมื่อไม่ มีปุ่มกด มีหน้าจอสัมผัส การป้อนข้อความจึงต้องอาศัยหน้าจอเพียงอย่างเดียว มีให้เลือกทั้งในแบบปุ่มกด Multi Tap โดยกดจากปุ่มตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอ หรือจะเลือกป้อนข้อความด้วยคีย์บอร์ดเสมือน QWERTY และยังอ่านลายมือได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ














New Generation of XpressMusic

เหนือ จอแสดงผลมีปุ่ม Media bar ซึ่งเป็นปุ่มแบสัมผัส เมื่อกดแล้วก็จะมี Drop down menu มาให้เลือก หนึ่งในเมนูนั้นมีเครื่องเล่นเพลงที่จะให้เปิดเพลงฟังได้อย่างรวดเร็ว เครื่องเล่นเพลงยังมีการแบ่งหมวดหมู่เพลงตามรายชื่อศิลปิน ชื่ออัลบั้ม ชื่อผู้แต่ง ประเภทของเพลง และยังเลือกเล่นจากรายการเพลงที่ถูกเลือกเล่นมากที่สุด (Most played), เพลงที่ถูกเลือกเล่นก่อนหน้า (Recently played) หรือเพลงที่ถูกเพิ่มเข้าไปในรายการ (Recently added) สำหรับการดาวน์โหลดเพลงก็ยังมี Nokia Music Store สำหรับเข้าไปดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แต่สำหรับบ้านเราคงต้องรอสักพัก เพราะได้ข่าวมาว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

มาดูหน้าตาของเครื่องเล่นเพลงกันบ้าง เมื่อเข้าสู่การเล่นเพลง หน้าจอขนาดใหญ่ก็จะแสดงภาพศิลปิน หรือปกอัลบั้มขณะเล่นเพลงขนาดค่อนข้างใหญ่ ดูได้เต็มตา การควบคุมเครื่องเล่นเพลงทำได้จากปุ่มกดแบบสัมผัสบนหน้าจอ หรือจะใช้รีโมทที่ติดมากับชุดหูฟังก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะใช้งานได้สะดวกกว่า แต่เสียดายที่ไม่ได้มาทดสอบด้วย โหมดการเล่นเพลงแบบ Shuffle play หรือเล่นเพลงแบบสุ่มจากลำดับเพลงที่มีในเครื่องทั้งหมด โหมดเล่นเพลงแบบวนซ้ำเมื่อเล่นจบรายการเพลง สำหรับหน้าจอแสดงผลก็สามารถปรับแนวหน้าจอโดยอัตโนมัติ เมื่อวางเครื่องในแนวตั้ง หรือแนวนอน ก็แล้วแต่ผู้ใช้ว่าจะชอบหน้าจอแบบไหน

การเลือกปรับโทนเสียงของเครื่องเล่นเพลงก็มีให้เลือกโทนเสียงแบบ Bass booster, Classical, Jazz, Pop, Rock และยังเลือกปรับแต่งเองได้จากอีควอไลเซอร์ 8 แบนด์ พร้อมทั้งบันทึกเป็นแบบเสียงของตัวเองได้อีกด้วย ส่วนการปรับแต่งอื่นๆ ก็มีให้เลือกปรับ Balance ซึ่งจะช่วยปรับความดังของเสียงซ้าย ขวาได้ตามต้องการ มี Bass booster สำหรับเพิ่มเสียงทุ้มให้กระหึ่มมากขึ้น และ Stereo widening สำหรับเพิ่มมิติของเสียงให้แยกซ้ายขวาชัดเจนยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเครื่องเล่นเพลงของ Nokia 5800 XpressMusic ก็ยังคงคล้ายกับ NSeries แต่รูปร่างหน้าตาของเครื่องเล่นเพลงจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบสัมผัส หากเคยใช้ NSeries มาก่อนก็ไม่ต้องปรับตัวมาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนมาใช้จอแบบสัมผัสเท่านั้นเอง





FM Stereo Radio Receiver ที่ขาดไม่ได้ของ XpressMusic คงจะเป็นวิทยุ FM แบบสเตอริโอ ซึ่งยังต้องใช้ชุดหูฟังเป็นเสาอากาศรับสัญญาณ โดยจะเลือกฟังผ่านชุดหูฟัง หรือเปิดฟังผ่านลำโพงของเครื่องก็ได้เช่นกัน มีระบบสแกนหาคลื่น พร้อมทั้งบันทึกลงในหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ สำหรับหน่วยความจำที่ใช้บันทึกสถานีมีมาให้ทั้งหมด 20 ช่อง



3.2 Mega Pixels Digital Camera, Carl Zeiss Optics

ถึง แม้ว่าจะอยู่ในตระกูลของ XpressMusic แต่ก็มีกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดถึง 3.2 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส พร้อมทั้งเลนส์ Carl Zeiss ที่ใช้ในกล้องคุณภาพระดับมืออาชีพและยังใช้กับ NSeries หลายต่อหลายรุ่น การถ่ายภาพของรุ่นนี้ออกแบบมาให้ถ่ายภาพในแนวนอน โดยที่ปุ่มชัตเตอร์จะอยู่ตรงนิ้วชี้พอดี มีไฟช่วยส่องสว่างขณะถ่ายภาพแบบ LED สีขาว 2 ดวงสำหรับการถ่ายภาพในที่มืด หรือหากอยู่ในที่แสงสว่างไม่เพียงพอ เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อโฟกัสภาพ ไฟ LED นี้ก็จะส่องสว่างให้กล้องจับโฟกัสได้ง่ายขึ้น

ความละเอียดของ ภาพมีให้เลือกเพียง 3 ระดับคือ 3, 2 และ 0.3 ล้านพิกเซล โหมดการถ่ายภาพ (Scene mode) ของ Nokia 5800 XpressMusic ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

Automatic เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการถ่ายภาพอย่างเดียว หรือต้องการความรวดเร็วในการถ่ายภาพ ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรมากนัก

User Defined สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการถ่ายภาพเองทั้งหมด โดยมีให้เลือกปรับการใช้ไฟช่วยส่องสว่าง, White balance, Exposure compensation, Colour tone, Light sensitivity, Sharpness, Contrast

Close-up สำหรับใช้ถ่ายภาพในระยะใกล้ตั้งแต่ 10-60 ซม.

Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลในระยะ 1-3 เมตร

Landscape ในโหมดนี้ระบบออโต้โฟกัสจะไม่ทำงาน เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในระยะตั้งแต่ 10 เมตรไปจนถึงระยะอนันต์ ข้อดีของการถ่ายภาพในโหมดนี้คือไม่ต้องเสียเวลาในการโฟกัสภาพ กดปุ๊บก็ถ่ายภาพได้ทันที

Sports การถ่ายภาพในโหมดนี้จะเหมาะกับการบันทึกภาพวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว อย่างเช่นคนกำลังวิ่ง รถยนต์ที่กำลังแล่นด้วยความเร็ว เป็นต้น

Night เมื่อเลือกถ่ายภาพในโหมดนี้ ไฟช่วยส่องสว่างจะไม่ทำงาน แต่ชัตเตอร์ของกล้องจะเปิดนานขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รับแสงได้ จึงจำเป็นต้องหาที่ยึด หรือวางกล้องนิ่งๆ จะช่วยลดการสั่นไหวของภาพ

Night portrait เป็นการถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน

ส่วน การตั้งค่าถ่ายภาพอื่นก็มีให้เลือกตั้งเวลาถ่ายภาพตั้งแต่ 2, 10 หรือ 20 วินาที มีโทนสีให้เลือกแบบ Sepia, Black & white, Vivid และ Negative เลือกปรับ White balance แบบอัตโนมัติ หรือจะเลือกปรับแบบ Sunny (แดดจ้า), Coludy (แสงแบบฟ้าหลัว), Incandescent (แสงจากหลอดไส้) หรือ Fluorescent (แสงจากหลอดไฟลูออเรสเซนต์) เลือกปรับ Light sensitivity หรือค่า ISO แบบ Low, Medium, High มีเสียงชัตเตเอร์ 4 แบบ แต่เลือกปิดไม่ได้

การถ่ายคลิปวิดีโอก็เลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดหลายแบบ เริ่มจาก

TV high quality เป็นความละเอียดสูงสุดของภาพที่ถ่ายได้ โดยมีความละเอียด 640 x 480 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์วิดีโอจะออกมาเป็นแบบ MPEG4

Wide screen high quality เป็นการถ่ายวิดีโอในรูปแบบของ Wide screen เต็มหน้าจอ 640 x 360 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาที ในรูปแบบของ MPEG4

E-mail high quality เหมาะสำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอความละเอียดสูงสำหรับใช้ส่งแนบไปกับอีเมล์ในรูปแบบของไฟล์ MPEG4

E-mail normal quality สำหรับใช้ส่งแนบไปกับอีเมล์คุณภาพในระดับปานกลาง ซึ่งเหมาะสำหรับส่งอีเมล์ไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นๆ

Sharing quality เหมาะสำหรับใช้ส่งเป็นข้อความ MMS โดยรูปแบบของไฟล์จะเป็นแบบ 3GP

การ เลือกความละเอียดของการถ่ายคลิปวิดีโอให้เหมาะสมก็จะช่วยให้ใช้พื้นที่หน่วย ความจำได้เต็มที่ เพราะหากถ่ายที่ความละเอียดสูงก็จะต้องใช้พื้นที่หน่วยความจำค่อนข้างสูง โดยสังเกตได้จากเมนูการเลือกความละเอียด ซึ่งจะมีระยะเวลาที่ถ่ายได้บอกอยู่ สำหรับกล้องดิจิตอลรุ่นนี้นับว่าให้ลูกเล่น และความสามารถมาให้เกินตัวจริงๆ











GPS Navigator & Nokia Maps 2.0

ภาย ในเครื่องยังมีภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS สำหรับใช้ระบุตำแหน่ง และใช้นำทางร่วมกับแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ ในเครื่องยังมีโปรแกรม Nokia Maps เวอร์ชั่น 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด การใช้งานก็เพียงแค่เปิดโปรแกรมขึ้นมา โดยตัวโปรแกรมจะทำการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต หากดาวน์โหลดแผนที่มาเก็บไว้ในเครื่องแล้วก็ใช้งานได้ทันที แต่หากยังไม่เคยดาวน์โหลด ตัวโปรแกรมจะทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดแผนที่โดยอัตโนมัติ สามารถเลือกให้เครื่องแสดงผลเป็นภาพแผนที่ หรือเป็นภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งจะเห็นเป็นถนนหนทาง สิ่งปลูกสร้าง ไปจนถึงหลังคาบ้านเลยทีเดียว โปรแกรม Nokia maps ยังมีระบบค้นหาสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเมือ สถานที่สำคัญ ร้านอาหาร โรงแรม และยังสามารถนำทางไปยังสถานที่ที่ค้นหาได้ แต่จะต้องสั่งซื้อระบบนำทางเพิ่ม แต่หากไม่สั่งซื้อก็จะใช้ระบุตำแหน่งได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังนำโปรแกรมระบบนำทางอื่นๆ มาติดตั้งบนตัวเครื่องเพื่อใช้งานได้ อย่างเช่นโปรแกรม Garmin MobileXT เป็นต้น






Connectivity

ระบบ การเชื่อมต่อทั้งแบบใช้สาย และไร้สายของรุ่นนี้ก็มีมาให้อย่างครบครัน ทั้งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย GPRS หรือ EDGE บนเครือข่าย GSM หรือจะใช้งานระบบ 3.5G ก็ทำได้ด้วยเทคโนโลยี HSDPA บนเครือข่าย WCDMA ความถี่ 900 และ 2100 MHz ความเร็วสูงสุดถึง 3.6 mbps เลยทีเดียว

ส่วน การเชื่อมต่อไร้สายในระยะใกล้ก็มีทั้งบลูทูธที่รองรับโปรไฟล์ A2DP ใช้งานได้ทั้งชุดหูฟังบลูทูธไร้สายธรรมดา หรือชุดหูฟังบลูทูธแบบสเตอริโอ รวมไปถึงการรับส่งไฟล์ การใช้งานตัวเครื่องเป็นโมเด็มไร้สายเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตบนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค นอกจากนี้ยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้อีกด้วย เบราเซอร์ของเครื่องยังรองรับการเปิดเวบเพจได้เต็มจอทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ซึ่งหากเปิดในแนวนอนก็จะแสดงเวบเพจได้ค่อนข้างสวยงามเหมือนกับในคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังรองรับ Flash Player ซึ่งเวบไซต์ส่วนมากจะแสดงผลรูปภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบของ Flash ด้วย หากต้องการขยายหน้าเวบเพจก็เพียงแค่แตะบริเวณที่ต้องการ 2 ครั้ง เวบเพจก็จะถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ดูได้สะดวก

สายดาต้าลิงค์แบบ micro USB ก็ใช้งานได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่วมกับโปรแกรม PC Suite หรือจะใช้การ์ดหน่วยความจำเป็น Mass storage เพื่อให้คอมพิวเตอร์เห็นเป็นไดร์ฟสำหรับจัดเก็บข้อมูล และยังใช้สายดาต้าลิงค์เพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นโมเด็มก็ได้เช่นกัน








Games & Other Applications

เซ็นเซอร์ ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือ Accelerometer meter ที่มีในเครื่องยังถูกนำไปใช้กับเกมส์ด้วย อย่างในเกมส์ Global Race Raging Thunder ซึ่งเป็นเกมส์ขับรถแข่ง การบังคับรถจะอาศัยเซ็นเซอร์ เมื่อเอียงเครื่องซ้าย หรือทางขวาก็เสมือนกับหักพวงมาลัย ให้อารมณ์การเล่นเกมส์บนโทรศัพท์มือถือที่แปลกใหม่ และยังเล่นแบบ Multiplayer ผ่านบลูทูธไร้สายได้ด้วย ส่วนเกมส์ Bounce ที่มีมาตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ Nokia เป็นจอสีก็มีมาให้ในเครื่องนี้ด้วย แต่จะอยู่ในรูปแบบของการใช้ปากกา โดยจิ้มไปที่ลูกบอลเพื่อบังคับไปยังตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการ ส่วนเกมส์อื่นๆ ก็รองรับเกมส์ทั้งเกมส์แบบ Symbian และ Java

สำหรับฟังก์ชั่นในหมวดออร์กาไนเซอร์ก็มีเครื่องคิดเลขพื้นฐาน, โปรแกรมแปลงหน่วย บันทึกเสียงได้ครั้งละ 1 ชั่วโมง, บันทึกโน้ตย่อ

















Final Opinion & Conclusion

จะ ว่าไปแล้ว Nokia 5800 XpressMusic เป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอแบบสัมผัสที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ทั้งในเรื่องของการแสดงผล อินเตอร์เฟสที่ใช้ง่าย เมนูไม่ซับซ้อน หากใช้ Symbian มาก่อนก็ไม่จำเป็นต้องปรับตัวมากนัก ในแพ็คเก็จยังมีการ์ดหน่วยความจำมาให้มากถึง 8 GB จุเพลง ภาพถ่าย คลิปวิดีโอความละเอียดสูง หรือไฟล์ภาพยนต์ก็ได้อย่างเหลือเฟือ การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสของ Nokia รุ่นนี้นับว่าทำได้ดีเกินคาด อีกทั้งยังมีลูกเล่นต่างๆ มาให้อย่างครบครัน นับเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามอง และคงจะได้เห็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอแบบสัมผัสใน NSeries เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

Strength
  • ระบบปฏิบัติการ Symbian 9.3 กับหน้าจอสัมผัส
  • เครื่องเล่นเพลง XpressMusic พร้อม microSD 8 GB
  • วิทยุ FM และลำโพงคู่แบบสเตอริโอในตัว
  • กล้องดิจิตอลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล เลนส์ Carl Zeiss
  • ถ่ายวิดีโอแบบ Wide Screen ความละเอียดสูง 30 เฟรมต่อวินาที
  • ภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS พร้อมแผนที่ Nokia Maps
  • มีช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • เชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ (A2DP) และ Wi-Fi
  • รองรับ HSDPA 3.6 mbps บนเครือข่าย WCDMA
  • เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Accelerometer meter) สำหรับปรับหน้าจอ และใช้เล่นเกมส์ได้
  • มีเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ (Proximity Sensor) สำหรับปิดหน้าจอเมื่อใช้งานโทรศัพท์
  • ต่อภาพไปยังหน้าจอทีวี หรือโปรเจ็คเตอร์ผ่านสาย TV-Out ได้

Weakness

  • ใช้กล้องด้านหน้าถ่ายภาพไม่ได้


Specification

ข้อมูลทั่วไป

  • ขนาด, น้ำหนัก 111 x 51.7 x 15.5 มิลลิเมตร, 109 กรัม
  • ระบบ GSM Quad Band 850/900/1800/1900 MHz, WCDMA 900/2100, HSDPA
  • แบตเตอรี่ Li-Ion 1320 mAh (BL-5J)
  • หน่วยความจำภายใน ประมาณ 83 MB
  • หน่วยความจำภายนอก microSD 8 GB
  • ระยะเวลาสแตนด์บาย สูงสุด 406.2 ชั่วโมงในระบบ GSM
  • สูงสุด 400 ชั่วโมงในระบบ WCDMA
  • ระยะเวลาสนทนา สูงสุด 8.8 ชั่วโมงในระบบ GSM
  • สูงสุด 5 ชั่วโมงในระบบ WCDMA
  • จอแสดงผล ขนาด 640 x 360 พิกเซล อัตราส่วน 16:9 (ขนาด 3.2 นิ้ว)
  • ชนิดและจำนวนสี TFT แบบสัมผัส 16.7 ล้านสี
  • ข้อความ
  • ระบบสะกดคำอัตโนมัติ อังกฤษ, ไทย
  • MMS รองรับ (สูงสุด 600 kB)
  • E-mail รองรับ
  • เสียง
  • ชนิด Polyphonic, MP3, AAC
  • การใช้คำสั่งเสียง มี
  • การโทรออกด้วยเสียง มี
  • แฮนด์ฟรี มี
  • มัลติมีเดีย
  • กล้องดิจิตอล มี (3.2 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส)
  • กล้องวิดีโอ มี
  • วิทยุ FM มี
  • เครื่องเล่นเพลง MP3 มี
  • เครื่องเล่นวิดีโอ มี
  • จาวา (JAVA) รองรับ
  • การเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล
  • การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก บลูทูธ (A2DP), Wireless LAN, และสายดาต้าลิงค์ (micro USB)
  • จีพีอาร์เอส (GPRS) มี
  • เอดจ์ (EDGE) มี
  • ภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS มี (พร้อม Nokia Map 2.0)



ข้อมูลเพิ่มเติม : nokiagang